เมื่อตัดสินใจและเลือกที่จะเป็นพนักงานโรงแรม เราจะต้องรู้ว่าเราจะสมัครเป็นพนักงานแผนกอะไร แล้วความสามารถและความถนัดของเราเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่เลือกหรือไม่ แต่หากว่าเราไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน หรือว่าพึ่งจะเรียนจบมา ก็ลองดูในตำแหน่งงานที่คิดว่าเราต้องทำมันได้ เช่น ถ้าเราเก่งภาษา (อันนี้เป็นทุนเลย) ลองเลือกทำงานส่วนหน้าไปเลย มีทั้ง Front Office, F&B ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบงานแบบไหน หรือถ้าเป็นคนพูดไม่เก่ง ก็ลองเลือกงานส่วนหลัง แม้ว่าเราจะพึ่งจบมาหรือไม่มีประสบการณ์ แต่จงอย่ากลัวว่าจะสัมภาษณ์ไม่ผ่าน หรือกลัวว่าเค้าจะไม่สนใจ
เมื่อเลือกตำแหน่งที่จะสมัครได้แล้ว ขั้นต่อไปก็คือการสมัครงาน เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดผมจะแบ่งช่วงเวลาสำคัญแต่ละช่วง และในแต่ละช่วงต้องเตรียมหรือต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อเลือกตำแหน่งที่จะสมัครได้แล้ว ขั้นต่อไปก็คือการสมัครงาน เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดผมจะแบ่งช่วงเวลาสำคัญแต่ละช่วง และในแต่ละช่วงต้องเตรียมหรือต้องทำอะไรบ้าง
ช่วงแรก : ตรวจเช็คความพร้อม
- ความมั่นใจ ข้อนี้สำคัญมากๆ ต้องนำไปด้วย จะเตรียมใส่กระเป๋าหรืออะไรก็แล้วแต่ ห้ามลืม
- ความมั่นใจ ข้อนี้สำคัญมากๆ ต้องนำไปด้วย จะเตรียมใส่กระเป๋าหรืออะไรก็แล้วแต่ ห้ามลืม
- ความพึงพอใจเมื่อแรกพบ จะได้เขียนใบสมัครหรือไม่ก็อยู่ที่ข้อนี้แหละ นั่นคือการแต่งตัว, บุคลิกภาพ, การถ่อมตน อันนี้ต้องบอกเลยว่าสำคัญมากๆ บางครั้งอาจเห็นผู้สมัครถูกเชิญให้กลับตั้งแต่ยังไม่ขอใบสมัครเลยก็มี
- ตำแหน่งที่จะสมัคร ว่าง/มีสถานะเปิดรับ ในแต่ละวันมีผู้สมัครมากมายที่ไม่ได้รับการสัมภาษณ์ เนื่องจากตำแหน่งงานที่เลือกสมัคร ยังไม่เปิดรับ ดังนั้นจึงได้แต่เขียนใบสมัครทิ้งไว้และตามมาด้วยคำพูดว่า "ทางเราจะติดต่อกลับไปนะคะ" รอไปยาวๆ
- ปากกา และน้ำยาลบคำผิด สิ่งของพวกนี้สำคัญมากทีเดียว บางครั้งอาจมีการเขียนผิด จะเอาปากกาไประบายมันก็ไม่ใช่ และบางโรงแรมมีให้วาดแผนที่บ้านด้วย!!
- เอกสารแนบในการสมัครงาน ถ่ายไปให้พร้อม ไม่ต้องไปยืมเครื่องถ่ายเอกสารโรงแรมนะ แนะนำให้เซนต์กำกับไปเลย
- รูปถ่าย อันนี้ห้ามลืมเด็ดขาด ในรูปถ่ายจะต้องแต่งกายสุภาพดูเป็นหนุ่มหรือสาวทำงาน ไม่แนะนำรูปถ่ายที่สวมชุดครุย
ช่วงที่สอง : การเขียนใบสมัคร (เวลาบ่งบอกถึงความพร้อมและความเป็นมืออาชีพ)
- ภาษาที่ใช้เขียนใบสมัคร อันนี้ขอย้ำเลยว่าไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทยคงจะดีกว่าถ้าเราเขียนภาษาอังกฤษไม่เก่ง ดีกว่าเขียนผิดๆส่งไป
- ระบุตำแหน่งงาน อย่าลืมใส่ตำแหน่งงานสำรองที่เราสามารถทำได้ด้วย โดยปกติในใบสมัครงานจะมีให้ใส่ 3 ตำแหน่ง บางครั้งตำแหน่งแรกอาจไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาในตำแหน่งอื่น
- ระบุเงินเดือน ควรจะรู้ว่าฐานเงินเดือนของตำแหน่งที่จะสมัครว่าอยู่ระหว่างตัวเลขอะไร พนักงานทั่วไปก็ประมาณ 9,000 - 10,000 จะมีอยู่บางแผนกที่จะได้เงินเดือนมากหน่อยก็คือ ฟร้อน, บัญชี, ช่าง, ครัว เพราะงานพวกนี้จะต้องใช้สกิลเฉพาะ
- การศึกษา สำหรับข้อนี้โดยส่วนตัวจะใส่เฉพาะสถาบันและปีที่จบล่าสุด ถ้าใส่ไปหมดเลยล่ะ อาจจะดีก็ได้ เผื่อเป็นสถาบันเดียวกันกับเจ้าหน้าที่จะได้มีเรื่องให้คุยกัน
- ประสบการณ์ ข้อนี้ก็ใส่ไปเท่าที่เรามี สำหรับใครที่ไม่เคยทำงาน ก็ให้เอาประสบการณ์ที่มีในสมัยเรียนนั่นแหละมาใส่ เช่น เคยฝึกงานที่ไหน ปีอะไร เป็นนักเรียนทุนนู้นนี่ ใส่เพื่อให้เครดิตตัวเอง ถ้าไม่มีจริงๆก็ไม่ต้องใส่ครับ
- ทักษะด้านภาษา อันนี้ไม่ต้องอาย ใส่ตามความจริงไปเลย เหมือนภาษาที่ใช้เขียนนั่นแหละ เพราะสุดท้ายตอนสัมภาษณ์เค้าก็รู้อยู่ดี
- หัวข้ออื่นๆ ถ้ามีก็ใส่ไปเพราะหัวข้อพวกนี้เป็นตัวที่สื่อถึงอุปนิสัยและความคิดของผู้สมัคร
- แบบทดสอบ บางโรงแรมจะให้มาพร้อมกับใบสมัครเลย หรือถ้าเป็นโรงแรมในเครือใหญ่ๆ จะต้องทำแบบทดสอบในคอมพิวเตอร์ผ่านระบบออนไลน์ หรือในบางตำแหน่งอาจะไปทดสอบทีเดียวตอนสัมภาษณ์
ช่วงสุดท้าย : การสัมภาษณ์
- ความมั่นใจ ข้อนี้ต้องมีตั้งแต่ช่วงแรกจนจบเลย ห้ามทำหล่นหายหรือลืมเด็ดขาด
- การสร้างสัมพันธภาพที่ดี ด้วยการทักทายและพูดคุยแบบมีขอบเขต
- ตอบคำถามอย่างฉลาด แม้ในบางหัวข้อหรือบางคำถามเราอาจจะไม่รู้คำตอบ แต่เราควรจะมีทักษะหรือเทคนิคในการตอบคำถาม
- ถามคำถามเมื่อถูกเปิดให้ถาม ในช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะถามว่า มีคำถามอะไรจะถามหรือไม่
เป็นยังไงกันบ้าง บอกเลยว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์จริงโดยที่ไม่เคยไปสมัครงานที่ไหนมาก่อน รับรองว่าอารมณ์ตอนนั้นจะตื่นเต้นมาก เอาล่ะ มาถึงตรงนี้หากใครที่กำลังจะไปสมัครงาน อย่าลืมเช็คความพร้อมและนำความมั่นในไปด้วย ขอให้ได้ข่าวดีนะครับ ปล.รักงานโรงแรมเหมือนเดิม
ช่วงที่สอง : การเขียนใบสมัคร (เวลาบ่งบอกถึงความพร้อมและความเป็นมืออาชีพ)
- ภาษาที่ใช้เขียนใบสมัคร อันนี้ขอย้ำเลยว่าไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทยคงจะดีกว่าถ้าเราเขียนภาษาอังกฤษไม่เก่ง ดีกว่าเขียนผิดๆส่งไป
- ระบุตำแหน่งงาน อย่าลืมใส่ตำแหน่งงานสำรองที่เราสามารถทำได้ด้วย โดยปกติในใบสมัครงานจะมีให้ใส่ 3 ตำแหน่ง บางครั้งตำแหน่งแรกอาจไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาในตำแหน่งอื่น
- ระบุเงินเดือน ควรจะรู้ว่าฐานเงินเดือนของตำแหน่งที่จะสมัครว่าอยู่ระหว่างตัวเลขอะไร พนักงานทั่วไปก็ประมาณ 9,000 - 10,000 จะมีอยู่บางแผนกที่จะได้เงินเดือนมากหน่อยก็คือ ฟร้อน, บัญชี, ช่าง, ครัว เพราะงานพวกนี้จะต้องใช้สกิลเฉพาะ
- การศึกษา สำหรับข้อนี้โดยส่วนตัวจะใส่เฉพาะสถาบันและปีที่จบล่าสุด ถ้าใส่ไปหมดเลยล่ะ อาจจะดีก็ได้ เผื่อเป็นสถาบันเดียวกันกับเจ้าหน้าที่จะได้มีเรื่องให้คุยกัน
- ประสบการณ์ ข้อนี้ก็ใส่ไปเท่าที่เรามี สำหรับใครที่ไม่เคยทำงาน ก็ให้เอาประสบการณ์ที่มีในสมัยเรียนนั่นแหละมาใส่ เช่น เคยฝึกงานที่ไหน ปีอะไร เป็นนักเรียนทุนนู้นนี่ ใส่เพื่อให้เครดิตตัวเอง ถ้าไม่มีจริงๆก็ไม่ต้องใส่ครับ
- ทักษะด้านภาษา อันนี้ไม่ต้องอาย ใส่ตามความจริงไปเลย เหมือนภาษาที่ใช้เขียนนั่นแหละ เพราะสุดท้ายตอนสัมภาษณ์เค้าก็รู้อยู่ดี
- หัวข้ออื่นๆ ถ้ามีก็ใส่ไปเพราะหัวข้อพวกนี้เป็นตัวที่สื่อถึงอุปนิสัยและความคิดของผู้สมัคร
- แบบทดสอบ บางโรงแรมจะให้มาพร้อมกับใบสมัครเลย หรือถ้าเป็นโรงแรมในเครือใหญ่ๆ จะต้องทำแบบทดสอบในคอมพิวเตอร์ผ่านระบบออนไลน์ หรือในบางตำแหน่งอาจะไปทดสอบทีเดียวตอนสัมภาษณ์

- ความมั่นใจ ข้อนี้ต้องมีตั้งแต่ช่วงแรกจนจบเลย ห้ามทำหล่นหายหรือลืมเด็ดขาด
- การสร้างสัมพันธภาพที่ดี ด้วยการทักทายและพูดคุยแบบมีขอบเขต
- ตอบคำถามอย่างฉลาด แม้ในบางหัวข้อหรือบางคำถามเราอาจจะไม่รู้คำตอบ แต่เราควรจะมีทักษะหรือเทคนิคในการตอบคำถาม
- ถามคำถามเมื่อถูกเปิดให้ถาม ในช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะถามว่า มีคำถามอะไรจะถามหรือไม่
เป็นยังไงกันบ้าง บอกเลยว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์จริงโดยที่ไม่เคยไปสมัครงานที่ไหนมาก่อน รับรองว่าอารมณ์ตอนนั้นจะตื่นเต้นมาก เอาล่ะ มาถึงตรงนี้หากใครที่กำลังจะไปสมัครงาน อย่าลืมเช็คความพร้อมและนำความมั่นในไปด้วย ขอให้ได้ข่าวดีนะครับ ปล.รักงานโรงแรมเหมือนเดิม